รีวิว Pandora (2016) หนังแนวภัยภัยพิบัติที่ดราม่าเรียกน้ำตายิ่งกว่าเทรนทูปูซาน


เรื่องย่อ โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งของประเทศเกาหลีใต้ได้เกิดระเบิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหว ผู้คนทั่วประเทศและคนที่อยู่ภายในเมืองนั้นพาหนีตาย เนื่องจากสารกัมมันตภาพรังสีได้รั่วออกมาจากโรงไฟฟ้าทำให้อากาศเป็นพิษ ระหว่างที่ประเทศกำลังจะล่มสลายสิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดในตอนนี้ก็คือฮีโร่...

เป็น 2 ชั่วโมง 16 นาที ที่ดำเนินเรื่องได้ไวมาก ไม่มีช่วงที่รู้สึกว่าต้องง่วง มันมีแต่ช่วงกดดัน ดราม่า แล้วก็ลุ้นๆๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ช่วงต้นของเรื่องหนังทำให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ ทั้งเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในโรงไฟฟ้าที่กลัวตายหนีออกมาก่อนไม่ยอมเข้าไปซ่อมอะไสักอย่างจำไม่ได้แล้วที่มันรั่วซึมออกมาเพราะแผ่นดินไหวจนเกิดแรงดันทำให้ระเบิดตู้มมม หลังจากระเบิดเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ไม่กล้าเข้าไปช่วยคนเจ็บในโรงไฟฟ้าเพราะกลัวว่าตัวเองจะได้รับสารพิษไปด้วย เอาเป็นว่าทุกคนกลัวตาย แถมยังพวกมีที่โทษกันไปโทษกันมาแต่ไม่ยอมทำอะไรแม้กระทั่งระดับผู้นำประเทศที่กลัวเศรษฐกิจจะพังพินาศเลยปิดข่าวการระเบิด แล้วทำให้อะไรๆยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ คือมันดราม่าสุดๆ ดราม่ามาก

พระเอกของเรื่อง คังแจฮยอง ช่วงต้นก็เห็นดูเป็นคนเห็นแก่ตัวมากกกกกกก ถึงแม้บทนี้จะแสดงโดย คิมนัมกิล สุดที่รักของแอดมินก็เถอะ แต่ช่วงต้นๆเขาแสดงได้น่าหมั่นไส้จนอยากจะเอาขวานไปจามหัวเสียเหลือเกิน แต่สุดท้ายก็ทำดราม่าเรียกน้ำตาคนดู คือซึ้งเศร้าอินพระเอกมากจนนึกว่าดูโกโบริเวอร์ชั่นเกาหลี 555+

ไม่ได้รู้สึกกดดัน อินกับหนังจนดูไปต้องโวยวายด่าตัวละครแบบนี้มานานแล้ว เพราะนิสัยตัวละครที่มันดูจริงมาก ไม่มีใครสร้างภาพทำตัวเป็นคนดีช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์แบบไม่คิดถึงตัวเองเลย และไม่มีใครเลวร้ายพอที่จะทำร้ายคนอื่นเพื่อให้คนเองรอดคนเดียว คนในเรื่องดูเป็นคนสีเทาๆ ไม่มีใครขาวเวอร์ และไม่มีใครดำสุดติ่ง ทุกคนมีดีและเลวในคนคนเดียวกัน

เข้าใจอารมณ์เลยที่ทุกคนกลัวเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเลยต้องพาตัวเองหนีไปตั้งหลัก แล้วถึงจะค่อยๆคิดแก้ปัญหากัน ถึงหนังจะดราม่า กดดันแต่ ไม่ใช่ว่าหนังจะไม่สนุกนะ คือเป็นหนังที่ดีมาก ลุ้นมาก ถึงหนังจะไม่มีผี ซอมบี้ หรือตัวประหลาดอะไรที่มันน่ากลัว แต่หนังก็ทำให้รู้สึกถึงความน่ากลัวของนิวเคลียร์ การวิ่งหนีสารกัมมันตภาพรังสี มันน่ากลัวยิ่งกว่าวิ่งหนีซอมบี้อีก เพราะหนียังไงก็หนีไม่พ้นหลบยังไงก็ไม่รอด

โชคดีที่หนังจบแบบโลกสงบสุข เพราะสุดท้ายแล้วฮีโร่ก็ยังมีเสมอ แม้จะมาช้าไปสักหน่อยก็ดีกว่าไม่มีเลย ความหวังแม้จะน้อยนิด แต่ก็ดีกว่าชีวิตที่ไม่มีความหวังเลย

สรุป เป็นหนังดี ลุ้น ตื่นเต้น และดราม่าสุดๆ เหมาะสำหรับเปิดให้ดูกันในโรงเรียนเพื่อสอนนักเรียนเลยจริงๆว่าการเห็นแก่ตัวไม่ได้ช่วยอะไรเลย ถ้าทุกคนมัวแต่คิดเห็นแก่ตัวกันหมดก็รอวันตายพร้อมกันได้เลย การมีจิตสำนึกช่วยเหลือสังคมก่อน นั่นคือสิ่งที่จะทำให้ทุกคนรอด

ตัวอย่างหนัง https://youtu.be/c6u0_bYLfII

ความคิดเห็น

  1. ผมนี้ร้องไห้หนักมากเลยคับบ

    ตอบลบ
  2. ดูแล้วหงุดหงิดมาก มีแต่คนเห็นแก่ตัว

    ตอบลบ
  3. เพิ่งจะได้มีโอกาสดูค่ะ แบบว่าเสียน้ำตาไป3โอ่ง หนังดีมากเลยค่ะ เยี่ยม

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น