"เรื่องราวความเชื่อของเลข 7"


เรื่องราวความเชื่อของเลข 7 นั้นปรากฏให้เห็นในหลากหลายอารยธรรมนับแต่ครั้งโบราณกาลเลยก็ว่าได้

ถ้าย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในพระคัมภีร์ก็จะพบว่าการพังกำแพงเมืองเยริโค (Jericho) ตามคำแนะนำของพระเจ้านั้นก็คือให้เดินรอบเมืองเยริโค 7 วัน และในวันที่ 7 ก็ให้เดินรอบเมืองทั้งหมด 7 รอบ ก่อนที่จะเป่าแตรขึ้นพร้อมกันแล้ว กำแพงเมืองเยริโคก็ถล่มลงมาตามที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์บทโยชูวา 6 (Joshua 6)

นอกจากในพระคัมภีร์ไบเบิลแล้ว ชาวตะวันตกและชาวยุโรปยังมีความเชื่อเก่าแก่แต่นานนมเล่าขานสืบต่อกันมาว่าเลข 7 นี้มีอำนาจพิเศษแฝงอยู่ ซึ่งความเชื่อที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับเลข 7 ก็คือเรื่องราวของ “บุตรคนที่ 7 ของบุตรคนที่ 7” นั่นเอง

ในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกานั้นมีความเชื่อเกี่ยวกับพลังลึกลับของบุตรคนที่ 7 มายาวนานแล้ว พวกเขาเชื่อว่าบุตรคนที่ 7 นี้จะมีพลังบางอย่างติดตัวมาตั้งแต่เกิด และยิ่งถ้าเป็นบุตรคนที่ 7 ของบุตรคนที่ 7 อีกทอดหนึ่งโดยที่ไม่มีเด็กผู้หญิงเข้ามาขัดในสายสกุลเลยนั้นจะยิ่งถือว่ามีพลังอำนาจในการเยียวยารักษาที่โดดเด่นมากเลยทีเดียว

นอกจากนั้นแล้วสำหรับชาวสกอตแลนด์ พวกเขาเชื่อว่าธิดาคนที่ 7 ของธิดาคนที่ 7 ก็จะมีพลังพิเศษแบบนี้เช่นกัน แต่เป็นพลังในด้านของการทำนายและพยากรณ์ ส่วนชาวไอร์แลนด์อาจจะมีความเชื่อที่พิสดารอยู่สักหน่อยด้วยว่า พวกเขาถือว่า “น้ำลาย” ของบุตรคนที่ 7 นั้นแฝงไปด้วยพลังแห่งการเยียวยารักษาเต็มเปี่ยม แต่สำหรับชาวโรมาเนียแล้วนั้น พวกเขากลับเชื่อว่าบุตรคนที่ 7 นั้นถูกชะตาฟ้าลิขิตมาเพื่อให้เขากลาย เป็น “ผีดูดเลือด” หรือแวมไพร์ไปซะอย่างนั้น

ว่าแต่มันมีหลักฐานใดที่ส่งเสริมเรื่องพลังพิเศษที่ว่ามานี้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องบอกว่ามีบันทึกเอาไว้อย่างแน่นอน และส่วนใหญ่ก็เป็นความเชื่อทางแถบทวีปยุโรปทั้งสิ้น

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า พลังพิเศษของบุตรคนที่ 7 ของบุตรคนที่ 7 นั้นมักจะเกี่ยวข้องกับความสามารถทางด้านการเยียวยารักษา ดังนั้นบันทึกที่ปรากฏจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของ “แพทย์” เสียเป็นส่วนมาก

เรื่องเล่าที่ขอนำมาเสนอก็คือบันทึกในสมัยของพระเจ้าชาลส์ที่ 2 (Charles II) แห่งอังกฤษ ที่ทำให้ประชาชนทั้งชาวนาและคนทำงานเหมืองในมณฑลคอร์นวอลล์ (Cornwall) เชื่อจากบันทึกนั้นว่าบุตรคนที่ 7 ของบุตรคนที่ 7 นั้นมีความสามารถในการเยียวยารักษาขั้นสูงถึงขนาดที่ว่าเขาสามารถ รักษาอาการเจ็บป่วยของกษัตริย์ได้อย่างง่ายดาย

เพียงแค่ทำการ “สัมผัส” พระวรกายเท่านั้น ซึ่งกรรมวิธีของหมอเทวดาคนนี้ก็คือการลูบคลำอย่างเบามือไปตามส่วนต่างๆสามครั้ง แล้วก็เป่ามนต์อีกสามครั้ง พร้อมทั้งท่องคาถา ก่อนที่จะมอบเหรียญ หรือเครื่องรางให้สวมใส่เพื่อเป็นการปัดเป่าทุกข์ภัยต่างๆออกไปจากร่างกาย

ส่วนบุตรคนที่ 7 ของบุตรคนที่ 7 อีกท่านหนึ่งอาศัยอยู่ในเมืองแฮมพ์เชียร์ (Hampshire) ประเทศอังกฤษเช่นกัน คนในหมู่บ้านนั้นเรียกบุคคลท่านนี้ว่า “คุณหมอ” ด้วยว่าเขามีความสามารถในการเยียวยารักษาคนที่ขาพิการ ว่ากันว่าคุณหมอท่านนี้มีไม้เท้าสะสมเอาไว้มากมาย ซึ่งเขาก็ไม่ได้หาซื้อมาจากที่ไหนหรอกครับ แต่ได้รับมาจากคนไข้ที่เขารักษาจนหายดีเป็นปกติโดยไม่ต้องใช้ไม้เท้าค้ำยันอีกต่อไปนั่นเอง

ทางด้านตำนานที่กล่าวถึงธิดาคนที่ 7 ก็มีให้เห็นเช่นกัน ในปี ค.ศ.1851 มีบันทึกปรากฏอยู่ที่หน้าต่างบานหนึ่งของเมืองพลิมมัธ (Plymouth) กล่าวถึงเรื่องราวของ “แพทย์หญิง” ท่านหนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็น “ธิดาคนที่ 7 รุ่นที่ 3” นั่นหมายความว่าเธอคือ “ธิดาคนที่ 7 ของธิดาคนที่ 7 ของธิดาคนที่ 7” อีกทอดหนึ่งนั่นเองครับ!! แต่น่าเสียดายว่าเราไม่ทราบถึงความเก่งกาจของนาง แต่อย่างน้อยก็พอจะเข้าใจได้ว่าเธอก็มีความสามารถในการเยียวยารักษาอัน
เยี่ยมยอดเช่นกัน

นอกจากประเทศอังกฤษแล้ว ในฝรั่งเศสก็มีความเชื่อเกี่ยวกับบุตร คนที่ 7 ของบุตรคนที่ 7 อยู่ด้วย ครั้งนี้เราทราบว่าเจ้าของตำแหน่งอันน่าทึ่งนี้มีนามว่า “ฟูลงค์” (Foulon) ครับ ฟูลงค์เป็นช่างทำถังไม้ที่อาศัยอยู่ในเมืองออร์ลิอันซ์(Orleans) เขาเป็นบุตรคนที่ 7 ของบุตรคนที่ 7

ที่ทางการฝรั่งเศสมอบเหรียญตราเครื่องอิสริยาภรณ์ของราชวงศ์(Fleur-de-lis) ให้เนื่องจากว่าเขามีความสามารถในการเยียวยารักษาและสามารถขับไล่พลังความชั่วร้ายออกไปจากองค์กษัตริย์ได้ นั่นจึงทำให้บ่อยครั้งที่ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศจะแห่กันมาหาฟูลงค์เพื่อให้เขาช่วยรักษา ยิ่งในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนก่อนถึงรุ่งเช้าของวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ (Good Friday) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นช่วงที่ฟูลงค์จะใช้พลังของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดนั้นจะมีคนไข้มาร่วมรับการรักษามากมายถึงร่วม 500 คนเลยทีเดียว

จะเห็นได้ว่าเลข 7 นั้นมีพลังที่น่าทึ่งซุกซ่อนอยู่ในตำนานความเชื่ออย่างแรงกล้า แต่คำถามสำคัญก็คืออะไรอยู่เบื้องหลังพลังมหัศจรรย์เหล่านี้ บ้างก็เสนอว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเลข 7 โดยตรง แต่ความเฉลียวฉลาดผิดมนุษย์นี้ อาจจะมาจากการที่ลูกคนเล็กจะได้รับการสืบทอดความสามารถทางด้านสติ ปัญญาจากผู้ให้กำเนิดมามากกว่าลูกคนโต

เนื่องจากคนเรามักจะมีพัฒนาการทางจิตใจและปัญญาอยู่เสมอ นั่นแปลว่าลูกคนเล็กย่อมต้องได้รับการสืบทอดทางสติปัญญาจากผู้ให้กำเนิดที่มีระดับจิตใจและปัญญาที่มากกว่าในขณะที่คลอดลูกคนแรก แต่บ้างก็เสนอว่าลูกคนเล็กมักจะมีขนาดสมองที่ใหญ่กว่าลูกคนแรก จึงทำให้ระดับสติปัญญาและความสามารถมีมากกว่าตามไปด้วยแต่ก็ยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้ 100% แนวคิดต่างๆนี้มีความจริงเท็จประการใด และแท้ที่จริงแล้วความมหัศจรรย์นี้จะเกิดจากสาเหตุใดกันแน่

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม