ด้ายแดงแห่งโชคชะตา


ด้ายแดงแห่งโชคชะตาเป็นความเชื่อของประเทศในแถบเอเชียตะวันออก มีต้นกำเนิดของความเชื่อมาจากประเทศจีน ภาษาจีนเรียกว่า หงเชี่ยน โดยความเชื่อของจีนคือ หนุ่มสาวที่โชคชะตากำหนดให้มาคู่กัน จะมีเชือกสีแดงที่มองไม่เห็นผูกอยู่ที่ข้อเท้าของแต่ละฝ่าย (ในความเชื่อของญี่ปุ่นเปลี่ยนจากเชือกสีแดงเป็นด้ายสีแดงผูกอยู่ที่นิ้วก้อยของทั้งสองฝ่ายแทน)

ตำนานเล่าว่าเทพเจ้าที่ชื่อว่า (เยว่เชี่ยเหลา) เป็นผู้ควบคุมกำหนดด้ายแดงแห่งโชคชะตา คืนหนึ่ง ขณะที่เด็กชายคนหนึ่งกำลังเดินกลับบ้านอยู่นั้น ระหว่างเขาได้พบกับชายแก่คนหนึ่งยืนอยู่ใต้แสงจันทร์ ชายแก่บอกกับเด็กชายว่าเด็กชายได้ถูกกำหนดให้เป็นคู่แท้กับภรรยาของเขา

โดยมีด้ายแดงแห่งโชคชะตาผูกพันระหว่างทั้งสองคน ชายแก่ยังได้พาเด็กชายไปดูเด็กผู้หญิงซึ่งเป็นเจ้าสาวในอนาคตของเขาอีกด้วย แต่ด้วยความที่ยังเด็กและไม่สนใจความรัก เด็กชายจึงขว้างก้อนหินใส่เด็กผู้หญิงแล้ววิ่งหนีไป

หลายปีต่อมา เด็กชายได้เติบโตขึ้นเป็นหนุ่ม และกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานซึ่งพ่อแม่เป็นคนจัดการให้ ในคืนวันแต่งงาน เขาได้เข้าไปหาเจ้าสาวของเขาในห้องนอน เมื่อเขาเปิดผ้าคลุมออกก็พบว่าเจ้าสาวของเขาเป็นผู้หญิงที่สวยงามมาก

แต่เธอมีเครื่องประดับชิ้นหนึ่งติดอยู่ที่บริเวณคิ้ว ชายหนุ่มถามเธอถึงสาเหตุที่เธอต้องติดเครื่องประดับชิ้นนี้ เธอเล่าว่า เมื่อตอนเธอยังเด็ก มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งขว้างก้อนหินใส่เธอ ทำให้เธอมีแผลเป็นบริเวณคิ้วติดตัวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชายหนุ่มจึงได้รู้ว่า ที่แท้แล้วเจ้าสาวของเขาก็คือเด็กผู้หญิงที่ เยว่เชี่ยเหลา ได้บอกว่าเป็นคู่แท้ของชายหนุ่มที่ผูกพันกันด้วยด้ายแห่งโชคชะตาเมื่อตอนเขายังเป็นเด็กนั่นเอง

ความเชื่อเรื่องด้ายแดงแห่งโชคชะตา ถ้าเทียบกับความเชื่อของไทยหรือความเชื่อของตะวันตกอาจจะเทียบเคียงได้กับเรื่องของเนื้อคู่ คู่แท้ หรือความเชื่อเรื่อง Soul mate หรือ Destined Flame นั่นเอง ซึ่งด้ายแดงแห่งโชคชะตานี้จะเชื่อมโยงกับทั้งสองฝ่ายตลอด ไม่ว่าทั้งคู่จะอยู่ที่ใด ณ เวลาใด หรือชาติภพใดก็ตาม ด้ายแดงนี้อาจจะยืดตึง หรืออาจจะพันกันได้ แต่ไม่อาจตัดขาดออกจากกันได

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม